Accom Thailand

April 28, 2009

“วสิษฐ เดชกุญชร” เขียนบทความ เมื่อมันกำลังเผาเมืองไทย คนไทยก็ต้องช่วยกันดับไฟ ย้ำชัด “นช.แม้ว” มุ่งทำลาย พระมหากษัตริย์


“วสิษฐ เดชกุญชร” ย้ำชัด “นช.แม้ว” มุ่งทำลายพระมหากษัตริย์
พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ และ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เขียนบทความ เมื่อมันกำลังเผาเมืองไทย คนไทยก็ต้องช่วยกันดับไฟ ตอบโต้ นช.แม้ว

พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ และ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เขียนบทความ เมื่อมันกำลังเผาเมืองไทย คนไทยก็ต้องช่วยกันดับไฟ ตอบโต้ นช.แม้ว


อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เขียนบทความตอบโต้ “นช.แม้ว” ระบุชัด ให้สัมภาษณ์ “ไฟแนนเชียลไทมส์” ปรักปรำ ในหลวง รู้เหตุการณ์ 19 ก.ย. ล่วงหน้า จงใจ หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ ผิด ม.112 ย้ำพฤติกรรมสะท้อน ไม่ต้องการ ระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ เป็นประมุข และ มุ่งทำลาย พระมหากษัตริย์


หนังสือพิมพ์ มติชนรายวัน ฉบับ วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2552 หน้า 6 ได้ตีพิมพ์ บทความ ของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้านายตำรวจ ราชสำนักประจำ และ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เรื่อง “เมื่อมันกำลังเผาเมืองไทย คนไทยก็ต้องช่วยกันดับไฟ” เพื่อตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ที่ให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ ไฟแนลเชียลไทมส์ ของ อังกฤษ ฉบับวันที่ 20 เมษายน 2552 มีเนื้อหา ตอนหนึ่ง ปรักปรำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับ การรัฐประหาร วันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งสะท้อนว่า

พ.ต.ท.ทักษิณ จงใจที่จะ จาบจ้วงหมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิด ต่อความมั่นคงตามมาตรา 112 และ เห็นว่า พฤติการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงชัด แล้วว่า ไม่ต้องการ ระบอบประชาธิปไตย แบบที่มี พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข และ มุ่งทำลาย พระมหากษัตริย์ อย่างแน่นอน ดังรายละเอียดของ บทความดังนี้

“เมื่อมันกำลังเผาเมืองไทย คนไทยก็ต้องช่วยกันดับไฟ”


ใครๆ ที่ได้อ่านข่าว (พ.ต.ท.) ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียลไทมส์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านไปแล้ว คงมีความรู้สึกไม่ต่างกับผม คือ รู้สึกว่า

ถ้า (พ.ต.ท.) ทักษิณ ไม่มีความรู้เลยในเรื่อง ระบอบประชาธิปไตย แบบที่มี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (พ.ต.ท.) ทักษิณ ก็คงจะไร้เดียงสา หรือโง่ หรือบ้า หรือ มีเจตนา ที่จะทำลาย ระบอบประชาธิปไตย แบบที่มี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ก่อนที่จะอ่าน เรื่องนี้ต่อไป ผมขอชี้แจงว่า ที่ผมใส่วงเล็บไว้หน้าและหลังคำ “พ.ต.ท.” หน้าชื่อ “ทักษิณ” ในการเขียนเรื่องนี้ ก็เพราะ ผมรู้สึกกระดากมือ และ กระดากใจ ที่จะใส่ยศเข้าไปเต็มๆ ที่หน้าชื่อ “ทักษิณ” เพราะ (พ.ต.ท.) ทักษิณ ได้ทำความเสียหาย และ อับอายขายหน้า อย่างเหลือเกิน ให้แก่ ราชการตำรวจ

ด้วยการ หนีโทษ ตามคำพิพากษาของศาล แล้วยังเป็น ผู้ยุยงส่งเสริม ให้เกิดความไม่สงบขึ้นในประเทศ จนตกเป็นผู้ต้องหาใน คดีอาญา อีกด้วย จึงไม่สมควรจะมี หรือ ใช้ยศตำรวจ และ ควรจะถูกถอดยศ ได้แล้ว แต่เมื่อยังมียศอยู่ ผมก็จะใช้ ยศนั้นในวงเล็บ ไปพลางก่อน เมื่อใด ที่ถูกถอดยศแล้ว เมื่อนั้น ผมจึงจะเรียกว่า นายทักษิณ

เรื่องเกี่ยวกับ การให้สัมภาษณ์ ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณ นั้น เดี๋ยวนี้ผมไม่อยากเขียน เพราะ (พ.ต.ท.) ทักษิณ พูดเพ้อเจ้อ และ โกหกมดเท็จ ทุกครั้ง การเขียน และ พิมพ์ เรื่อง การให้สัมภาษณ์ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณ จึงไร้ประโยชน์ และ กลายเป็นการช่วยแพร่ การเพ้อเจ้อ และ โกหกมดเท็จ

แต่เมื่อทั้ง สื่อเทศ และ สื่อไทย ยังเผยแพร่ การโกหกมดเท็จ นั้นอยู่ และ เมื่อการโกหกมดเท็จ ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณ อาจกระทบกระเทือน และ เสียหายร้ายแรง ต่อบ้านเมือง ผมก็ถือเป็น หน้าที่ของผม ที่จะต้องตอบโต้ หรือ คัดค้าน

ข่าว การให้สัมภาษณ์ ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณ คราวนี้ ปรากฏใน หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียลไทมส์ ฉบับวันที่ 20 เมษายน 2552 (พ.ต.ท.) ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวของ หนังสือพิมพ์ฉบับนั้น สองคน คือ

นายรอบิน วิกเกิลสเวอร์ธ (Robin Wigglesworth) ในนครดูไบ และ นางสาว (หรือนาง) เซรีนา ทาร์ลิงก์ (Serena Tarling) ใน นครลอนดอน (พ.ต.ท.) ทักษิณ บอกว่า

ก่อนที่จะเกิด รัฐประหาร ขึ้นในเดือน กันยายน 2549 นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทาน พระบรมราชวโรกาส ให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี (ในขณะนั้น) และ องคมนตรี อีกผู้หนึ่ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และ ผู้ที่เข้าเฝ้าฯ ได้กราบบังคมทูลว่า จะกำจัด (พ.ต.ท.) ทักษิณ ถวาย เพราะ (พ.ต.ท.) ทักษิณ ไม่จงรักภักดีต่อฝ่าละอองธุลีพระบาท (they will do a favour for him by getting me because I am not loyal to the king) (พ.ต.ท.)

ทักษิณ บอกด้วยว่า หลังจากนั้น เมื่อตนพยายามจะปราบปราม การประท้วง ที่เป็น ปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล ก็ไม่มีผู้ใดร่วมมือ เพราะมีบางคน ส่งเสริม อยู่เบื้องหลัง (there is someone boosting behind them)

(พ.ต.ท.) ทักษิณอ้างว่า ตนทราบเรื่องนี้ จาก พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี


ก่อนอื่น ควรทราบว่า การเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท มิใช่เป็นเรื่องง่าย แม้จะเป็น เรื่องสำคัญ หรือ เร่งด่วนที่สุด และแม้ ผู้ขอเฝ้าฯ จะเป็น ประธานองคมนตรี หรือ องคมนตรี ก็ตาม

การขอเฝ้าฯ มีขั้นตอนของ การปฏิบัติ ที่ทุกคนต้องทำตาม และ ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะ สำนักราชเลขาธิการ และเมื่อเสด็จลงให้เฝ้าฯ ก็มี เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เฝ้าฯ ปฏิบัติหน้าที่ถวาย อยู่ในที่ประทับ ด้วยเสมอ

ผู้อ่าน ที่มีสติสัมปชัญญะ และ มีเหตุผล ย่อมรู้ และ เข้าใจทันที เมื่อได้อ่านข่าวนี้ ว่า หากมี การเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และ กราบบังคมทูล ดังที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณ อ้างว่า ทราบจาก พล.อ.พัลลภ

พล.อ.พัลลภ ก็ต้องรู้เรื่องการเฝ้าฯ นั้นจากคนอื่น และ “คนอื่น” นั้นจะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก พล.อ.เปรม หรือ พล.อ.สุรยุทธ์ หรือ องคมนตรี อีกผู้หนึ่ง (ที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณ อ้างว่า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ด้วย) หรือ เจ้าหน้าที่ ที่โดยหน้าที่ จะต้องเฝ้าฯ อยู่ในที่ประทับ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ อีกคนหนึ่ง ในที่นั้น ก็คือ สมุหราชองครักษ์

คงรู้ และ จำกันได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพระองค์ อยู่ในฐานะ พระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ อย่างเคร่งครัด ไม่เคยปรากฏว่า เคยทรงล่วงพระราชอำนาจ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

เมื่อมีวิกฤตการณ์บ้านเมือง ไม่ว่าครั้งใด ทรงถือว่าเป็น หน้าที่ความรับผิดชอบ ของ รัฐบาล จะต้องแก้ไขปัดเป่า ต่อเมื่อ เป็นที่เห็นชัดว่า วิกฤตการณ์ ลุกลาม ร้ายแรง เช่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และ เสียชีวิต เป็นจำนวนมาก จึงจะ ทรงพระกรุณา ระงับวิกฤตการณ์ แต่ก็ด้วยการ พระราชทาน คำแนะนำ แก่รัฐบาลเท่านั้น

องคมนตรีทุกคนทราบดีว่า รัฐบาลชุดที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณ เป็น นายกรัฐมนตรี และชุดอื่นๆ ทุกชุด เป็นรัฐบาลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแต่งตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ ในฐานะที่ทรงเป็น พระมหากษัตริย์

เป็นไปได้หรือที่ พล.อ.เปรม หรือ พล.อ.สุรยุทธ์ หรือ องคมนตรี คนไหนก็ตาม จะเข้าไปเฝ้าฯ กราบบังคมทูล ว่า ตนเอง จะ ละเมิด กฎหมาย ละเมิด รัฐธรรมนูญ ถวาย ด้วยการกำจัด (พ.ต.ท.) ทักษิณ นายกรัฐมนตรี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง?

การให้สัมภาษณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบเรื่อง รัฐประหาร ก่อนเช่นนั้น เป็นการปรักปรำ หรือ กล่าวหา ฝ่าละอองธุลีพระบาท โดยตรง และ อย่างเปิดเผย ว่า ทรงอนุญาต หรือ ทรงอนุโลม ให้เกิดรัฐประหาร แสดงว่า (พ.ต.ท.) ทักษิณ ไม่เคารพสักการะ พระมหากษัตริย์ และ จงใจ หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดต่อ ความมั่นคงของรัฐ ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 112

ขณะที่เขียนเรื่องนี้ ผมยังไม่เห็น หรือ ได้ยินประกาศ หรือ แถลงการณ์ ของส่วนราชการใด ปฏิเสธการปรักปรำ กล่าวหา ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณ แต่ผมเห็นว่า คนไทย ที่เคารพสักการะ พระมหากษัตริย์ และ ยึดมั่น ในระบอบ ประชาธิปไตย แบบที่มี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่จำเป็น ต้องคอย ทางราชการ ต่อไปอีกแล้ว

แต่ควรตระหนักกันเสียทีว่า พฤติการณ์ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณแสดงชัดแล้ว ว่า (พ.ต.ท.) ทักษิณ ไม่ต้องการ ระบอบประชาธิปไตย แบบที่มี พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข และ มุ่งทำลาย พระมหากษัตริย ์อย่างแน่นอน

ตลอดเวลา 62 ปี ที่ทรงครองราชย์มา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงแสดงให้ ประจักษ์ ด้วยพระราชกรณียกิจ ทั้งน้อยและใหญ่ นานัปการ ว่า ทรงอุทิศ พระวรกาย ให้แก่ ประชาชนและบ้านเมือง โดยปราศจาก เงื่อนไข ทรงตรากตรำ พระวรกาย จนพระพลานามัยไม่สมบูรณ์ และ ทรงพระประชวร แม้กระนั้น ก็ยังไม่ทรงหยุด ยังทรงตั้งพระทัย ทำงานเพื่อคนไทย และ เมืองไทย ต่อไป

เรารู้ด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงติดยึดกับ ตำแหน่ง พระมหากษัตริย์ ทรงทำหน้าที่ เพื่อหน้าที่ และ ทรงถือเอา ความสำเร็จของ พระราชภารกิจ เป็นสำคัญ ทั้งยังทรงยึดมั่นใน ขันติธรรม

การให้ร้าย และ แสดงตัวเป็น ปฏิปักษ์ต่อ พระมหากษัตริย์ ของ (พ.ต.ท.) ทักษิณ หรือ ของใคร ก็ตาม ไม่เคยทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสะทกสะท้าน หรือ หวั่นไหว หรือ กริ้ว หรือ น้อยพระราชหฤทัย

mtc1
เพราะฉะนั้น จึงถึงเวลาแล้ว ที่คนไทย ที่ตระหนักใน พระมหากรุณาธิคุณ เคารพสักการะ พระมหากษัตริย์ และ ยึดมั่นใน ระบอบประชาธิปไตย แบบที่มี พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข จะต้องพิจารณาตัดสินใจว่า

จะควรทำอย่างไร กับผู้ที่ไม่แต่จะจาบจ้วง ลบหลู่ดูหมิ่น และ หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นที่เคารพสักการะ ของเรา เท่านั้น แต่ยังพยายาม ที่จะล้ม ระบอบประชาธิปไตย แบบที่มี พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขด้วย

ที่มา: http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act02280452§ionid=0130&day=2009-04-28

astv_mgr-200จาก ข่าว และ ภาพ ของ สำนักข่าว ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2552 22:46 น.

พิมพ์ ข่าวนี้ “วสิษฐ เดชกุญชร” ย้ำชัด “นช.แม้ว” มุ่งทำลายพระมหากษัตริย์

Related News :

Interview transcript: Thaksin Shinawatra

Print Version

Financial Times สัมภาษณ์ทักษิณ ชินวัตร
จาก หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท
409 ชั้น 1 (อาคาร มอส.) ซ.โรหิตสุข (รัชดา 14) ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 5 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
โทร. 02 690 2711 แฟกซ์ 02 690 2712


ใช้ [ปุ่มถอยหลัง] ของเว็บบราวเซอร์ เพื่อกลับมาที่นี่ จากข้อมูลเชื่อมโยงด้านล่าง
Use Browser [Back] Button Return to Here from URL Below

Leave a Comment »

No comments yet.

RSS feed for comments on this post. TrackBack URI

Leave a comment

Blog at WordPress.com.