Accom Thailand

February 29, 2008

วันที่ 2 มี.ค. ไทยเลือก ส.ว. – รัสเซีย เลือก ประธานาธิปดี – 2nd Mar. Russian’s Election


โค้งสุดท้ายเลือกตั้งรัสเซีย

จาก – http://www.suthichaiyoon.com/WS01_A001_news.php?newsid=1829

คณะกรรมการเลือกตั้งกลางของรัสเซีย เตือนผู้สังเกตุการณ์เลือกตั้งจากยุโรป อย่าเข้ามาก้าวก่ายเรื่องภายในของรัสเซีย ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคมนี้นายวลาดิมีร์ ชูรอฟ ประธานกรรมการเลือกตั้งกลางรัสเซีย ได้เตือนเรื่องนี้ ระหว่างพบปะกับคณะผู้สังเกตุการณ์เลือกตั้ง 25 คน ของสมัชชาของสภายุโรป หรือ เพซ ซึ่งนำโดย นายแอนเดรียส กรอส ที่กรุงมอสโคว์เมื่อวานนี้โดยขอให้คณะผู้สังเกตุการณ์งดเว้นการออกแถลงการณ์ หรือมีถ้อยแถลงใด ๆ ที่มีอคติและจะส่งผลกระทบกับพฤติกรรมของผู้มีสิทธิ์ใช้เสียง ก่อนที่ผลการเลือกตั้งจะออกมา

มิฉะนั้นจะถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของรัสเซียคำเตือนเรื่องนี้มีขึ้น หลังจากที่นายกรอสได้ให้สัมภาษณ์ กับสื่อก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียจะที่ถึงนี้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่มีตัวเลือกอย่างแท้จริงเขายังแสดงความผิดหวังกับการที่
นายดมิทรี เมดเวเดฟ ทายาททางการเมืองของ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นผู้ชนะ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ยอมร่วมดีเบททางโทรทัศน์ร่วมกับผู้สมัครคนอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งมีความยุติธรรมกว่านี้นายกรอสยังวิพากษ์วิจารณ์ นายเมดเวเดฟด้วยว่า ไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย และมีสัญญานบ่งชี้ว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 มีนาคมนี้ จะไม่บริสุทธิ์และยุติธรรม
Vladimir Putin and First Deputy Prime Minister and presidential candidate Dmitry Medvedev

สำหรับบรรยากาศของการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้ง แม้ว่าจะเป็นที่คาดหมายอย่างกว้างขวางว่า นายเมดเวเดฟ รองนายกรัฐมนตรี จะนอนมาชนิดไม่พลิกโผ แต่ทำเนียบ เคลมริน ก็ไม่ได้วางใจ ใช้สารพัดกลยุทธ์เพื่อให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด ตั้งแต่การแจกบัตรลดเที่ยวไนท์คลับ สำหรับหนุ่มสาว หรือการจำหน่ายของชำราคาถูกที่บริเวณคูหาเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิใช้เสียงทั่วรัสเซียบอกว่า รัฐบาลทั้งปลอบทั้งขู่ให้พวกเขาออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า

ผู้สมัครของทำเนียบเคลมลินจะได้ชัยชนะอย่างท่วมท้นขณะที่โรงพยาบาลและโรงเรียนขู่ไล่เจ้าหน้าที่ออก หากใครไม่ไปเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีการขู่บริษัทเอกชนด้วยว่า หากมีพนักงานไปลงคะแนนจำนวนน้อย ก็จะถูกปรับภาษี หรือแม้แต่นักศึกษาก็ถูกขู่ว่าถ้าไม่ไปใช้สิทธิ ก็จะถูกให้ซ้ำชั้นการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ถูกมองว่าเป็นการลง ประชามติรับรอง ทายาททางการเมืองของ ประธานาธิบดีปูติน มากกว่าเป็นการเลือกตั้ง และเนื่องจากผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็รู้กันดีอยู่แล้ว นักวิจารณ์บางคนบอกว่า บรรดาผู้สนับสนุนนายเมดเวเดฟ จึงอาจเลือกที่จะนอนหลับทับสิทธิ นอกจากนี้หากมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิน้อย ก็อาจทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความชอบธรรมของเขาได้ ทางการรัสเซียจึงพยายามทุกทาง ที่จะกระตุ้นให้ประชาชนออกมาแสดง พลังสนับสนุน นายเมดเดเวฟ


Putin’s Presidency Ends, Not His Rule

Russia’s presidential election this Sunday is a ritual marking a prearranged transfer of power. Its formal outcome is already generally known, long before voters even enter the balloting booth — Vladimir Putin will be succeeded in the presidency by his protege, 42-year-old Dmitri Medvedev. What’s less clear, however, is how power will be reallocated between the incumbent and his hand-picked successor after the election.

Vladimir Putin

President Putin has heeded the requirements of Russia’s constitution by stepping down after his two consecutive terms in office.

On March 2, when Russians go to the polls, Medvedev — Putin’s erstwhile assistant at city hall in St. Petersburg in the 1990s, then his Kremlin chief of staff, and now chairman of the board of Gazprom and first deputy prime minister — will almost certainly become Russia’s president-elect. It could hardly be otherwise in a political process where independent media is muzzled and state-controlled outlets propagandize for Putin, and where real opposition is forcefully suppressed and where the only competition comes from the Kremlin’s traditional sparring partners — Communist party boss Gennadi Zyuganov and nationalist Vladimir Zhirinovsky, with an unknown freemason Andrei Bogdanov thrown in for the want of other pliant “contenders.” And, of course, Putin is very popular among Russians for the hydrocarbon-fueled turnaround in the country’s fortunes that has occurred on his watch. So, Medvedev won’t have to break a sweat to carry a landslide 73% of the vote.


Read this article from CNN

or read Putin seeks big election turnout from BBC

ข่าวลือ – เหยื่อรายที่ 5 ของรัฐบาลนี้ ? “ธาริษา”ลาออก หลังยกเลิกมาตรการกันสำรอง30%


ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรองเงินนำเข้าระยะสั้นร้อยละ 30 แล้ว
รายงานข่าวในวงการธนาคารเปิดเผยว่า

Dr. Tharisaในช่วงบ่ายวันนี้ มีข่าวลือแพร่สะพัดใน ห้องค้าหลักทรัพย์ของโบรกเกอร์ เกี่ยวกับการ ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ของ ธนาคารแห่งประเทศไทยโดยหลังจากนั้น ดร.ธาริษา วัฒนเกส อาจจะประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการ บังเอิญกับการนัดแถลงข่าวของ ธปท.ในเวลา 16.00 น.


ดร.โกร่ง”เตือนเศรษฐกิจไทยขาลง ชี้แนวทางผิดดูแลเงินเฟ้อมากกว่าการเติบโต


“ดร.โกร่ง” ชี้ทิศทางการบริหารเศรษฐกิจขณะนี้ เป็นแนวทางที่ผิด รวมถึง ธปท.เข้าไปอิงเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะดูในเรื่องอัตราเงินเฟ้อมากกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากไม่ใช้นโยบายลดดอกเบี้ย ค่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่อง หากเป็นเช่นนี้เศรษฐกิจไทยพังแน่ และไม่รู้เงินบาทจะแข็งค่าไปอีกแค่ไหนดร.วีรพงษ์ รามางกูร หรือ ดร.โกร่ง ประธานกรรมการบริษัทแอ๊ดวานซ์ อะโกร กล่าวในงานสัมมนา “เศรษฐกิจไทยในอีก 2 ปีข้างหน้า” ว่า ปัจจัยความเสี่ยงที่ทำให้มองว่าเศรษฐกิจไทยจะเป็นเศรษฐกิจขาลงอีก 1-2 ปี มาจากทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยในประเทาศ โดยปัจจัยภายนอกมาจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงและราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันจะสูงขึ้นอีก 2 ปีส่วนปัจจัยภายในประเทศ ยอมรับว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยถดถอยจากความไม่มั่นใจทางการเมือง นักลงทุนไม่มั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย
และไม่รู้ว่าจะมีการรัฐประหารทำไม
อ่านต่อ จาก สุทธชัย หยุ่น

รัฐบาลอังกฤษ และสหรัฐฯ ให้ไทยเพิ่มบทบาทการสนับสนุนประชาธิปไตยในพม่า

รัฐบาลอังกฤษ และสหรัฐฯ เรียกร้องให้ไทยเพิ่มบทบาทในการสนับสนุนประชาธิปไตยในพม่า ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยัน ไทยในฐานะประธานอาเซียน พร้อมสนับสนุนเต็มที่

ในช่วงเช้าวันนี้ นางเมค มันส์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ และนายคริสโตเฟอร์ ฮิล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เข้าหารือกับนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั้งอังกฤษและสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลไทย เพิ่มบทบาทในการสนับสนุน ประชาธิปไตยในประเทศพม่า โดยเฉพาะช่วงที่ไทยรับเป็น ประธานอาเซียน ในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งนายนพดล ให้ความมั่นใจกับทั้ง 2 ประเทศ ว่าไทยจะให้การสนับสนุน การลงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ ในเดือนพฤษภาคม ให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด เพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว

โดยในวันที่ 13-14 มีนาคมนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเยือนประเทศพม่า

อย่างไรก็ตาม ในการหารือกับทั้งอังกฤษและสหรัฐฯ ไม่มีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ การเมืองไทย และ บทบาท ของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ทั้ง 2 ประเทศ ได้ชื่นชมพัฒนาการทาง การเมืองของไทย ที่กลับคืนสู่ ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ลาตินอเมริกากำลังเผชิญกับน้ำท่วมหนัก – Landslide Floods in Latin America

Filed under: 1 — accomthailand @ 14:18
Tags: , ,


ประชาชนหลายแสนคนในหลายประเทศทั่วลาตินอเมริกากำลังเผชิญกับน้ำท่วมหนัก


ประชาชนหลายแสนคนในหลายประเทศทั่วลาตินอเมริกากำลังเผชิญกับน้ำท่วมหนัก หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยใน เอกวาดอร์ น้ำท่วมทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย รวมทั้งพื้นที่ทางการเกษตรและสาธารณูปโภคต่างๆ คิดเป็นมูลค่าถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในเปรูมีผู้เสียชีวิต 16 คนและไร้ที่อยู่อาศัยอีก 1,688 คน และ สำนักงานป้องกันอันตรายของ เปรู ได้ประกาศ
ภาวะฉุกเฉิน ใน 4 จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศ ขณะที่ใน กรุงบูเอโนสไอเรส เมืองหลวงของ อาร์เจนติน่า ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขัง.

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


Landslide shuts down Ecuador oil pipeline

QUITO, Ecuador (AP) — Ecuador’s state oil company shut down two major ducts Thursday after a landslide triggered by flooding destroyed a section of oil pipeline. Petroecuador said in a statement that it immediately shut down its major oil pipeline and a second duct that transports oil derivatives.flood in EquadorThe statement did not specify whether there were any spills.The 503-kilometer (314-mile) pipeline that runs from the city of Lago Agrio in the eastern Amazon to the western port of Balao crosses Ecuador’s Andes to transport some 357,000 barrels of crude a day.Ecuador, South America’s fifth largest oil producer, produces about 511,000 barrels

Floods killed seven people the previous night, bringing the toll to 23 since the downpours began in mid-January, the Civil Defense office said in an e-mailed statement.

From CNN :: http://edition.cnn.com/2008/WORLD/americas/02/29/ecuador.pipeline.ap/index.html#cnnSTCText


Deadly Ecuador floods leave thousands homeless

BABAHOYO, Ecuador (CNN) — At least 10 people have died and thousands have been left homeless after torrential rains inundated large parts of Ecuador, officials said Thursday.

Authorities said the rains, which began a week ago, were the worst in a quarter century. Civil defense officials said more than 10,000 families have been affected.Los Ríos — north of Guayaquil — was the hardest hit of nine provinces affected, civil defense officials said.In Los Ríos province, five people died when an ambulance drove into a hole at the side of a street at dawn Thursday. A newborn boy, his parents, a doctor and a driver were killed.

Streets also were flooded in the capital of Quito.

On Wednesday, President Rafael Correa declared a state of emergency and ordered 2,000 members of the army and the police to help rescue workers. Correa increased by $25 million the $10 million he already had allocated for the emergency efforts. He also directed another $88 million to municipalities.

Once the crisis has eased, an emergency fund will give seed and fertilizer to help farmers whose fields were washed away, Ecuador’s government said. There also have been reports of livestock drowning.

Cristina Medina, a spokeswoman for the Ecuadorean Red Cross, said provinces most heavily affected were along the Pacific coast, where drinking water was often in short supply.

In some towns, high waters forced entire neighborhoods to evacuate, Medina said.

From CNN :: http://edition.cnn.com/2008/WORLD/americas/02/21/ecuador.floods/index.html

ตำรวจฟิลิปปินส์กว่า 5 พันนายรับมือชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล – Ex-presidents at Philippine rally


เตรียมพร้อมรับมือกับการชุมนุมประท้วง


ตำรวจฟิลิปปินส์กว่า 5 พันนายเตรียมพร้อมรับมือกับการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ ที่จะมีขึ้นในวันนี้

โดยผู้จัดคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 5 หมื่นคน
ในเขตมากาติ ของกรุงมะนิลา ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการต่อต้าน ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ผู้นำฟิลิปปินส์

ขณะที่กองกำลังทหารหลายพันนายเตรียมพร้อมอยู่ในค่ายรอบเมืองหลวง
เพื่อให้การสนับสนุนตำรวจในกรณีจำเป็น โดยในการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีคอราซอน อากิโน่ และ อดีตประธานาธิบดีโจเซฟ เอสตราด้า จะเข้าร่วมด้วย.
สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


Ex-presidents at Philippine rally


Thousands of people have joined a protest in the Philippine capital, Manila, to demand the resignation of President Gloria Arroyo.
The protesters want her to step down over corruption claims surrounding her husband and an ally’s involvement in a government deal with a Chinese firm.Both men deny the allegations and the deal has been cancelled.Former presidents Joseph Estrada and Corazon Aquino joined the demonstration as security forces went on high alert.People unitedunited

Ms Aquino, 75, once a staunch ally of President Arroyo, climbed on a stage to address the crowd, which police estimated to be 15,000-strong, although organisers said there were more.

“I thought my work was done because I am already old,” she said. “But this is what the times ask for, for us to unite so that the deceit will end and we will find out the truth.

“Thankfully there are still many of us shouting, Gloria, enough, resign already.”
The protest was the biggest since the corruption claims emergedMr Estrada, pardoned by President Arroyo last year after being sentenced to life in prison for corruption, joined his former rival on stage.

Correspondents say it was the largest demonstration against the president since the allegations emerged weeks ago.

The corruption row relates to a multi-million dollar deal for a government broadband network and claims Ms Arroyo’s husband and an ally sought illegal payments.

Ms Arroyo cancelled the deal because of the claims, which were being investigated by the Senate.

From BBC ::http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/7271079.stm

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นถึง 113 ล้านบาท


ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีรายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินเพิ่มถึง 113 ล้านบาท

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินปีที่ผ่านมาเพิ่มจากปี 2549 ถึง 113 ล้านบาท พร้อมปรับปรุงอาคารผู้โดยสารให้รองรับได้ 8 ล้านคนต่อปี

CNX Airportนาวาอากาศโทประทีป วิจิตรโท ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่และคณะ แถลงข่าวในโอกาสครบรอบ 20 ปีของการดำเนินกิจการของ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้พัฒนาปรับปรุงด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสายการบินที่บินทั้งในและระหว่างประเทศ 12 สายการบิน วันละ 79 เที่ยวบิน

ปีงบประมาณ 2550 มีรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน ค่าเช่าสำนักงานและพื้นที่ 472 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ถึง 113 ล้านบาท หรือร้อยละ 31

มีอากาศยานพาณิชย์ขึ้น-ลง 26,708 เที่ยวบิน ผู้โดยสารกว่า 3 ล้าน 3 แสนคน เพิ่มจากปี 2549 ร้อยละ 9.5

ขณะที่โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคมีทั้งหมด 15 โครงการ งบประมาณกว่า 2,129 ล้านบาท ส่วนใหญ่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เช่น งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ งานก่อสร้างทางวิ่งทางขับ งานปรับปรุงขยายทางขับและลานจอดอากาศยาน และการก่อสร้างระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ

ส่วนงานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่า 1 ปีนับจากนี้จะเสร็จสิ้น จากนั้นจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 8 ล้านคนต่อปี ขณะที่ปัจจุบันสามารถรับผู้โดยสารได้ 2 ล้านคนต่อปี

ทั้งนี้ ในระยะต่อไปท่าอากาศยานเชียงใหม่จะติดตั้งเครื่องตรวจวัดเสียงถาวรบริเวณพื้นที่ชุมชนรอบ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 4 จุด เพื่อควบคุมเสียง และแรงสั่นสะเทือนจากอากาศยาน ให้เป็นไปตามมาตรฐานของ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ

สำหรับแนวคิดการย้ายท่าอากาศยานเชียงใหม่นั้น ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า เป็นเพียงแนวคิดที่ยังไม่ได้เริ่มศึกษา ซึ่งหากในอนาคตไม่สามารถรองรับการบริการก็อาจย้ายไปที่อื่น ซึ่งในอดีตเคยมีผู้เสนอให้จัดสร้างที่อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

จะลงมติคว่ำบาตร อิหร่าน ครั้งใหม่อีกแล้ว


คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติใกล้ที่จะลงมติคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่แล้ว

คณะทูตชาติตะวันตกกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะลงมติ เพื่อกำหนด มาตรการลงโทษอิหร่าน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ เป็นครั้งที่ 3 ในวันพรุ่งนี้

โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐพยายามที่จะผลักดันให้มีการลงมติดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่ นายจอห์น ซอเวอร์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อาจลงมติคว่ำบาตรอิหร่านในวันพรุ่งนี้ แต่ไม่ปฏิเสธว่า อาจมีการเลื่อนวันออกไป


ทั้งนี้ สมาชิกถาวร 5 ชาติ ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้เห็นชอบในเนื้อหา ของร่างญัตติคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ญัตตินี้ยังได้รับ การสนับสนุนจาก สมาชิกไม่ถาวร ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอีก 10 ประเทศ ทำให้คาดว่า คณะมนตรีความมั่นคง จะผ่านความเห็นชอบมาตรการคว่ำบาตร อิหร่าน

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

รัฐสภาเกาหลีใต้ให้การรับรองนายฮัน ซึง ซู เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม


รัฐสภาเกาหลีใต้ได้ลงมติ รับรองแต่งตั้ง นายฮัน ซึง ซู ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

รัฐสภาเกาหลีใต้ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 174 ต่อ 94 เสียง รับรองแต่งตั้ง นายฮัน ซึง ซู ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว วันนี้ หลังพรรคสหประชาธิปไตย ซึ่งเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านยอมอ่อนข้อ ล้มเลิก การคัดค้านแต่งตั้ง

นายฮัน นายฮัน วัย 71 ปี เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลังและกระทรวงต่างประเทศมาก่อน โดยปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งทูตพิเศษสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ.

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เยือน ลาว – นอกจากกระชับความสัมพันธ์แล้วมีความคืบหน้าในกรอบความร่วมมือ


นายกรัฐมนตรี ระบุการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนลาวครั้งนี้ นอกจากเพื่อกระชับความสัมพันธ์ 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีความคืบหน้าในกรอบความร่วมมือด้านต่าง ๆ ด้วย

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการพบปะหารือ ทวิภาคี อย่างเป็นทางการกับ นายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรีลาว ในโอกาสเดินทาง เยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อย่างเป็นทางการ ว่า ได้มีการหยิบยกประเด็นต่าง ๆ ขึ้นหารือ โดยเฉพาะเรื่อง ที่ไทยและร่วมกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของ โครงการฝ่ายไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขง ที่บ้านกุ่มน้อย เมืองชะนะสมบูน แขวงจำปาสัก ที่ตรงข้ามกับ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านไฟฟ้าและพลังงานที่สำคัญ

Samak in Loas

นอกจากนี้ ไทยและลาวยังมีการเน้นย้ำความร่วมมือด้านการขยายการเชื่อมโยงเครือข่ายเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะการสร้าง สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน ซึ่งไทยยืนยันให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว โดยไทยจะสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 1,400 ล้านบาท เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยง ออกสู่ ทะเลเวียดนาม รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยวในภูมิภาค ทั้งนี้ยังจะมีโครงการก่อสร้าง สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เชียงของ-ห้วยทราย อีกด้วย


นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยถึงความร่วมมือการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนว่า ขณะนี้ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2551 ส่วนการแก้ปัญหาม้งลาวลักลอบเข้าไทยผิดกฎหมายนั้น ไทยและลาวเห็นว่าควรดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป

อย่างไรก็ตามหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรี 2 ฝ่าย ได้เป็นสักขีพยานในการลงนามสัญญาว่าจ้าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง โครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ ด้วยเพื่อช่วย ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทย – ลาว อีกทางหนึ่ง

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรองร้อยละ 30


ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรองเงินนำเข้าระยะสั้นร้อยละ 30 แล้ว


เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง และการไหลเข้า-ออกของเงินทุนเริ่มมีความสมดุลมากขึ้น


นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ ยกเลิก การใช้มาตรการกันสำรองเงินนำเข้าระยะสั้นร้อยละ 30 มีผลตั้งแต่ วันที่ 3 มีนาคม2551 เป็นต้นไป


เนื่องจากพิจารณาภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2550 และในเดือนมกราคม ปี2551 แล้ว พบว่า อุปสงค์ในประเทศฟื้นตัวดี ประกอบกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อเนื่องของรัฐบาล สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี


นอกจากนี้ช่วงที่ผ่านมากระแสเงินตราต่างประเทศไหลเข้า-ออก อย่างสมดุลมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการเกินดุลการค้า ที่ลดลง


ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เชื่อว่า การประกาศยกเลิกมาตรการดังกล่าว จะไม่สร้างความตื่นตระหนก ให้ตลาดมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดมีการคาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้ว


ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เตรียมมาตรการรองรับการบริหารจัดการเงินทุนไหลเข้า-ออก หลังยกเลิกมาตรการ ไว้เช่นกัน ได้แก่


การเพิ่มวงเงินการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มขึ้น เป็น 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


มาตรการป้องปรามการเก็งกำไรต่าง ๆ


การปรับปรุงโครงสร้างบัญชีเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ


โดยในวันที่ 3 มีนาคมนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จะชี้แจงเหตุผลในการยกเลิกมาตรการดังกล่าวต่อธนาคารพาณิชย์อีกครั้ง


ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ค่าเงินบาทในวันนี้แกว่งตัวในระดับ 31 บาท 40 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติแข็งค่าก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31 บาท 79 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เป็นผลมาจากแรงเทขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ของผู้ส่งออก
ที่กังวลว่า การยกเลิกมาตรการกันสำรองเงินนำเข้าระยะสั้นร้อยละ 30 จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก


อนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ประกาศใช้มาตรการกันสำรองเงินนำเข้าระยะสั้นร้อยละ 30 มาตั้งแต่ปลายปี 2549 โดยให้เหตุผลว่า เป็นการสกัดกั้นเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศที่เข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท เพื่อชะลอการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของค่าเงินบาท


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลขาฯ ก.ล.ต. เสนอยกเลิกมาตรการกันสำรองร้อยละ 30


สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

Next Page »

Blog at WordPress.com.