Accom Thailand

October 4, 2008

ศาลอนุญาต ให้ฝากขัง “ไชยวัฒน์” มีผลให้ต้องถูก ควบคุมตัวไปที่ เรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯ


กองเชียร์พันธมิตรฯ หลั่งน้ำตา หลัง ศาลอนุญาต ให้ฝากขัง “ไชยวัฒน์”


กองเชียร์พันธมิตรกว่า 100 คน หลั่งน้ำตาหลัง ศาลอนุญาต ให้ฝากขัง “ไชยวัฒน์” มีผล ให้ต้องถูกควบคุมตัวไปที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เจ้าตัว เตรียมยื่นประกัน 6 ต.ค. นี้ ด้านอธิบดีกรมคุก สั่งเจ้าหน้าที่ดูแล พร้อมแจก คู่มือติดคุก


วันนี้ (4 ต.ค.) เวลา15.30 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก องค์คณะผู้พิพากษาได้ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่ง ตามที่ พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว พนักงาน สอบสวน (สบ.3) สน.นางเลิ้ง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีก 30 นาย มายื่นคำร้อง ขอฝากขัง นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อายุ 59 ปี แนวร่วม พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 2527/2551 ลงวันที่ 27 ส.ค. 51 ในคดี สมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ และ เป็นกบฏ ทำให้เกิด ความวุ่นวายในบ้านเมือง


โดยศาลพิเคราะห์แล้ว ได้ความตามคำร้อง และสอบถามผู้ร้องแล้ว ยืนยันว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏว่า ผู้ต้องหา ได้ร่วมกับ กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุม และ เคลื่อนไหว กล่าวโจมตีขับไล่รัฐบาล ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ของประชาชนตาม ระบอบ ประชาธิปไตย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 51 เรื่อยมา


โดยเฉพาะ วันที่ 26 ส.ค. 51 ผู้ต้องหา ได้พากลุ่มผู้ชุมนุม ไปปิด ถ.มิตรภาพ จ.นครราชสีมา และ วันดังกล่าว กลุ่มพันธมิตรฯ ได้พากลุ่มผู้ชุมนุม ประมาณ 20,000 คน ไปปิดล้อม และบุกเข้าใน ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ คณะรัฐมนตรีจน ไม่สามารถเข้าไปใน อาคาร ทำเนียบรัฐบาลได้ ทั้งในทางคดี มีความเชื่อมโยงกัน พนักงานสอบสวน จึงขอออกหมายจับ ซึ่งศาลอาญา มีคำสั่งให้ออกหมายจับ ผู้ต้องหา กับพวก ต่อมา วันที่ 3 ต.ค. 51 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ ศูนย์สืบสวน บช.น. ได้จับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ และ กรณีมีเหตุจำเป็น ที่จะต้อง สอบสวนพยาน อีกจำนวนมาก เนื่องจาก เจ้าพนักงานตำรวจ ได้บันทึกภาพและเสียง ตลอดระยะเวลา ที่มีการชุมนุม จึงต้องส่งเทปบันทึก ภาพ และ เสียง ไปตรวจพิสูจน์ ประกอบกับ ต้องตรวจสอบการกระทำ ที่เกี่ยวเนื่องกับ กลุ่มผู้ต้องหา และ แนวร่วมที่เกิดขึ้น ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ


เห็นว่าข้อเท็จจริง ที่ได้ความจาก ผู้ร้องข้างต้นถือว่า การสอบสวน ยังไม่เสร็จสิ้น และกรณีมีเหตุจำเป็น เพื่อทำการสอบสวน พนักงานสอบสวนผู้ร้อง จึงมีสิทธิ ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอหมายขังผู้ต้องหา นั้นไว้ตาม ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 วรรค 3 ส่วนที่ ผู้ต้องหา แถลงคัดค้านว่า หมายจับ อยู่ระหว่าง การพิจารณาของ ศาลอุทธรณ์ จึงถือว่าหมายจับ มีผลระงับใช้ ชั่วคราวนั้น เห็นว่า แม้ผู้ต้องหา กับพวก จะยื่น อุทธรณ์ ขอให้เพิกถอนหมายจับต่อ ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง รับไว้พิจารณาแล้ว ก็ตาม


แต่เมื่อ ศาลอุทธรณ์ ยังมิได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น กรณีจึงต้องถือว่า หมายจับของศาลอาญา ยังมีผลบังคับใช้ได้ ตามกฎหมาย ที่ผู้ต้องหาอ้างว่า หมายจับมีผลระงับ ไว้ชั่วคราวนั้น เป็นความเห็นส่วนตัวของ ผู้ต้องหาเอง ข้อคัดค้านประการแรกของ ผู้ต้องหาจึงฟังไม่ขึ้น


สำหรับข้อคัดค้าน ประการที่ 2 ที่ ว่า พนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการสอบสวน อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.51 จนถึง ปัจจุบัน เป็นเวลา 4 เดือน เศษ จึงเป็นระยะเวลาสอบสวน ที่พอสมควรแก่เหตุแล้วนั้น


ศาลเห็นว่า พนักงานสอบสวนผู้ร้อง ยืนยันว่า ทางการสอบสวน จำเป็นจะต้องตรวจสอบ และสอบปากคำ พยานอีกจำนวนมาก ซึ่งยังไม่สามารถ ระบุ จำนวน ที่แน่ชัดได้ ประกอบกับกรณี เห็นได้ว่า พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดคดีนี้ เป็นการกระทำ ที่ต่อเนื่อง มีพยานบุคคล ที่รู้เห็นจำนวนมาก เชื่อว่า การรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยาน อันเป็นขั้นตอน ในการสอบสวน ยังไม่เสร็จสิ้น และ พยานหลักฐาน ที่สอบสวนต่อไปนั้น อาจมีความเชื่อมโยง ถึงตัวผู้ต้องหา กรณีจึงถือว่า มีเหตุจำเป็น ที่จะต้องขังผู้ต้องหาไว้ เพื่อทำการสอบสวน ดังวินิจฉัยแล้ว ข้างต้น


คำคัดค้านของผู้ต้องหา ประการนี้ จึงฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนข้ออ้างของผู้ต้องหา ที่ว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี หรือข่มขู่พยาน เห็นว่า ข้ออ้าง ดังกล่าว ไม่ใช่เหตุ ที่จะยกขึ้นคัดค้าน การขอฝากขัง แต่เป็นเหตุที่ใช้ ประกอบการพิจารณาคำร้อง ขอให้ปล่อยชั่วคราว ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 และ 108/1 จึงมีคำสั่ง อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหา ได้ 12 วัน และ กำชับให้ พนักงานสอบสวน เร่งรัด การสอบสวน ให้แล้วเสร็จ โดยเร็ว


ภายหลัง นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ยังติดใจ ในการยื่นคำร้องฝากขังของ พนักงานสอบสวน โดยวันนี้ ยังไม่ขอใช้สิทธิ ในการประกันตัว แต่จะรอฟัง คำสั่ง ขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขัง ในวันที่ 6 ต.ค. นี้ ก่อนว่า ศาลจะมี คำวินิจฉัยอย่างไร


จากนั้นเจ้าหน้าที่ ราชทัณฑ์ได้นำตัว นายไชยวัฒน์ ไปทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนส่งตัว ขึ้นรถเรือนจำ ไปควบคุมไว้ที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ท่ามกลาง กองเชียร์กลุ่มพันธมิตร ที่มารอให้กำลังใจ ราว 100 คน ซึ่งตะโกน ให้กำลังใจ บางคนถึงกับ หลั่งน้ำตา เมื่อเห็น นายไชยวัฒน์ ในสภาพที่ อยู่บนรถของ เรือนจำ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ปราบจราจล และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน มาดูแลรักษาความปลอดภัย


ด้านนายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวภายหลัง ศาลอนุญาตฝากขัง นาย ไชยวัฒน์ ว่า มอบหมายให้ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร ควบคุมตัว นายไชยวัฒน์ ซึ่งจะถูกนำตัวมาควบคุมมาที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยกำชับ ให้ดูแลความปลอดภัยใน นายไชยวัฒน์ ช่วงเวลาที่ถูกคุมขัง และเมื่อ นายไชยวัฒน์ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ จะถูกส่งเข้า แดนแรกรับ


หลังจากนั้น ผบ.เรือนจำจะเป็นผู้พิจารณาว่า จะควบคุมตัว นายไชยวัฒน์ รวมกับ กลุ่มนักรบศรีวิชัย ที่ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ก่อนหน้านี้ หรือไม่ สำหรับผู้ต้องขังใหม่ จะได้รับแจกคู่มือการติดคุก เพื่อทราบข้อปฏิบัติ และกฎระเบีย ของเรือนจำ


จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำ ประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจร่างกาย ส่วนการเยี่ยมญาติ จะปฏิบัติเช่นเดียวกับ ผู้ต้องขัง รายอื่นๆ ซึ่งทางเรือนจำ จะเปิดเยี่ยมญาติ คนละ 15 นาที ในวันธรรมดา และ งดเยี่ยมวันเสาร์- อาทิตย์

ปรับปรุงจาก ข่าว และ ภาพ ของ สำนักข่าว ผู้จัดการออนไลน์
4 ตุลาคม 2551 19:52 น.
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000117810


พิมพ์ ข่าวนี้ กองเชียร์พันธมิตรฯ หลั่งน้ำตา หลัง ศาลอนุญาต ให้ฝากขัง “ไชยวัฒน์”


ข้อแถลง “ประสาทพระวิหาร” จากคณะวิจัย สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คลิกอ่าน ข้อมูล ข่าวและบทความเกี่ยวกับกรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร


ปราสาทตาควาย แม้ถูกทิ้งร้างมาหลายศตวรรษ แต่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์จนน่าประหลาดใจ

ใช้ [ปุ่มถอยหลัง] ของเว็บบราวเซอร์ เพื่อกลับมาที่นี่ จากข้อมูลเชื่อมโยงด้านล่าง
Use Browser [Back] Button Return to Here from URL Below

Leave a Comment »

No comments yet.

RSS feed for comments on this post. TrackBack URI

Leave a comment

Create a free website or blog at WordPress.com.