Accom Thailand

October 12, 2008

เฒ่าชรา ผู้ทรนงวัย 108 ปี “ปู่เย็น” เสียชีวิตวันนี้ ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว


ปิดฉาก “ปู่เย็น” เฒ่าทระนง บนหนทาง พอเพียง


ปิดฉากชีวิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับเฒ่าชรา ผู้ทรนงวัย 108 ปี “ปู่เย็น” ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว หลังถูกนำตัว ส่ง โรงพยาบาล จากการเกิดอาการช็อก หมดสติอยู่ภายในเรือ ในช่วงสายของ วันนี้ (12 ต.ค.)


เฒ่าชราคนนี้อาจจะไม่ได้เป็นนักร้อง ไม่ได้เป็นนักแสดง แต่เฒ่าชราคนนี้ก็เป็นดาราในหัวใจของใครต่อใครหลายๆ คน

ในหนังสือ ฅ คน ฉบับปฐมฤกษ์ ระบุชื่อจริงของปู่เย็นไว้ว่า “เย็น แก้วมะณี” อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 274/4 ถ.มาตยาวงศ์ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี ในอดีตมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว

ปู่เย็นชาวมุสลิม มีภรรยาเป็นไทยพุทธ ชื่อ “ย่าเอิบ” อยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครเปลี่ยนศาสนาโดยไม่มีลูกเพราะปู่เย็นเป็นหมัน แต่มีลูกสาวบุญธรรม 2 คน ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองเติบโตต่างก็แยกย้ายไปมีครอบครัวของตน

ในวันที่ 16 มีนาคม 2536 ปู่เย็นก็ต้องมาสูญเสียภรรยาคู่ชีวิตไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชายชราวัย 94 ในขณะนั้นต้องร้องไห้นานกว่า 3 เดือน

เมื่อไร้คนที่ตนรักปู่เย็นจึงตัดสินใจขนทรัพย์สมบัติไม่กี่ชิ้นไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ในน้ำที่ไม่มีทั้งเสา ไม่มีทั้งหลังคา หาเลี้ยงชีวิตด้วยการดักอวนหาปลา หากเหลือกินก็ขายในราคาถูกๆ ซึ่งหากใครจะเอาเงินให้ฟรีๆ จะทำให้ปู่เย็นรู้สึกโกรธ

หลังใช้ชีวิตมานานกว่า 10 ปี ชื่อของปู่เย็นก็ถูกเผยแพร่เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านรายการ “คนค้นฅน” ในตอนที่มีชื่อว่า “ปู่เย็น เฒ่าทระนง” ออกอากาศเมื่อคืนวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548 และอีก 2 ตอนต่อมา

ด้วยหลักการดำเนินชีวิตที่น่าสนใจ มีแง่คิดมากมายโดยตั้งอยู่บนความเรียบง่าย-พอเพียง และความอารมณ์ดีนั่นเองที่ทำให้ชื่อของปู่เย็นเกิดเป็นกระแสโด่งดังเป็นอย่างมาก กระทั่งมีการเรียกร้องให้นำเอาเทปรายการดังกล่าวมาออกอากาศอีกครั้ง

“ดูแต่หอยสิ ไม่มีมือไม่มีตีน มันยังหากินได้เอง ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย…”

“ขายอย่าให้แพง คนเขาจะได้กินลง ฉันขายถูกๆ เอาไปเถอะ ซื้อไปแกงให้พอหม้อ…”

“มีก็กิน ไม่มีก็ไม่กิน ไม่ขอใคร คนเราอดตาย หายาก ถ้าไม่เจ็บไม่ไข้นะ…”

“ชีวิตคนเหมือนสะพาน มีขึ้น มีลง มีสูง มีต่ำ พอสุดท้าย ก็ตาย…” ประโยคง่ายๆ เหล่านี้อาจจะไม่ใช่ปรัชญายิ่งใหญ่ที่เอาไว้ให้ใครต่อใครได้ท่องจำ แต่มันคือหลักที่ปู่เย็นใช้ในการดำเนินชีวิตบนเรือตลอดมา

23 มีนาคม 2548
ปู่เย็น ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อเข้ารับเรือพระราชทาน ต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จากนั้นชื่อของ ปู่เย็นก็กลายเป็นสัญลักษณ์ อย่างหนึ่งของแม่น้ำเพชร และ จังหวัดเพชรบุรีไป โดยปริยาย มีคนมากมายจาก ทั่วสารทิศมาเยี่ยม ชนิดที่หัวบันไดสะพานลำไย ไม่เคยแห้ง

จากการกลายเป็น “ดารา” นี้เองที่ทำให้ หลายคนเกิดความเป็นห่วงว่า ผลการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จากคนรอบข้าง จะเกิดผลกระทบกับ ชายชราวัย 100 กว่าปี คนนี้ทั้งในเรื่องของสุขภาพ และรูปแบบการดำเนินชีวิต

เหมือนกับคำบอกกล่าวของปู่เย็นที่ว่า… ชีวิตคนนั้นเหมือนสะพาน มีขึ้นก็ต้องมีลง… ระยะหลังชื่อของปู่เย็นค่อยๆ เงียบหายไป ตามกระแสธารกาลเวลา จะมีข่าวคราวบ้างเป็นครั้งคราว เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย ทั้งกรณีเป็นฝีที่คอ ปอดติดเชื้อ รวมถึงอุบัติเหตุจากการหกล้ม

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ พ.ศ.2548 กระทั่ง พ.ศ.2551 ปู่เย็นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ชายวัยชราคนนี้เป็น “ดารา” นอกจอ ตัวจริงเพียงใด เพราะห้วงเวลาที่ผ่านไป แม้สังคมและคนรอบข้างจะเปลี่ยนแปลง แต่ปู่เย็นก็ยังคงเป็น ปู่เย็นคนเดิม ผู้สมถะ ใช้ชีวิตด้วย การหาปลาตามเดิม ไม่อยากให้ใครมาสงสาร หากมีแต่ความสงสารและ เกรงใจคนอื่นๆ

“ไม่เอาง่ะ เกรงใจมัน…กินฟรีได้ แต่ไม่กิน เกรงใจ ไม่เอา อาย ของเขาซื้อเขาขาย ไหนต้องตัก ไหนต้องล้าง…” คือคำตอบที่ ยืนยันถึง นิสัยส่วนตัวของ เฒ่าชราคนนี้

เกือบตลอดทุกครั้ง ที่มีใครหยิบยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ในรูปของอาหารและเงินทอง

นับจากวันที่ภรรยาเสียชีวิต วันที่ 20 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา น้ำตาแห่งความเสียใจของ ผู้เฒ่าคนนี้ต้องไหลนองหน้าอีกครั้ง หลังเรือพระราชทานฯ ที่เปรียบเสมือนบ้าน ได้เกิดพลิกคว่ำจาก พายุฝนที่ตกกระหน่ำอย่างหนัก

ค่ำคืนดังกล่าวแม้ตัวของปู่เย็นจะทุลักทุเลอยู่ในน้ำนานร่วมชั่วโมง แต่สิ่งเดียวที่แกห่วงก็หาใช่ชีวิตของตนเองไม่

“เรือ เรือมันจมแล้ว…” ปู่เย็นบอกเสียงสั่นตื่นตระหนกพร้อมกับใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตา

ตลอดช่วงเวลาที่เรือถูกนำไปซ่อมแซมโดยวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยานั้น ปู่เย็นมีอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอันคุ้นเคยในวันที่เจ้าตัวได้เรือดังกล่าวกลับคืนมาเมื่อ 1 ตุลาคม 2551

“จะตายบนเรือลำนี้แหละ…” เฒ่าวัย 108 ปี ลั่นไว้ก่อนกลับไปใช้ชีวิตในเรืออีกครั้ง

น่าเสียดายเหลือเกินที่วันนั้นได้มาถึงแล้วในวันนี้


หมายเหตุ – สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทาน พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 2 แสนบาท เพื่อช่วยเหลือ การจัดพิธีศพ ของ “ปู่เย็น” ที่จะถูกนำไปตั้งที่ มัสยิดกลาง จ.เพชรบุรี ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และ จะทำพิธีละหมาด ขอพร ฝังร่างในเวลา 10.00 น. ของวันพรุ่งนี้

ปรับปรุงจาก ข่าว และ ภาพ ของ สำนักข่าว ผู้จัดการออนไลน์
12 ตุลาคม 2551 13:12 น.
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9510000121101


พิมพ์ ข่าวนี้ ปิดฉาก “ปู่เย็น” เฒ่าทระนง บนหนทาง พอเพียง


ข้อแถลง “ประสาทพระวิหาร” จากคณะวิจัย สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คลิกอ่าน ข้อมูล ข่าวและบทความเกี่ยวกับกรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร


ปราสาทตาควาย แม้ถูกทิ้งร้างมาหลายศตวรรษ แต่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์จนน่าประหลาดใจ

ใช้ [ปุ่มถอยหลัง] ของเว็บบราวเซอร์ เพื่อกลับมาที่นี่ จากข้อมูลเชื่อมโยงด้านล่าง
Use Browser [Back] Button Return to Here from URL Below

Leave a Comment »

No comments yet.

RSS feed for comments on this post. TrackBack URI

Leave a comment

Create a free website or blog at WordPress.com.