ยานโซยูสของรัสเซีย จากศูนย์อวกาศใน คาซัคสถาน วันนี้

เจ้าหน้าที่รัสเซียตรวจสอบความพร้อมของยานโซยูสอีกครั้ง
ก่อนจะนำนักบินอวกาศหญิงคนแรกของเกาหลีใต้
เดินทางขึ้นสู่ห้วงอวกาศวันนี้

ยานโซยูสของรัสเซีย มีกำหนดปล่อยออกจากศูนย์อวกาศใน คาซัคสถาน ในเวลา 11.16 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ โดยมี ยี โซยอง วิศวกรหญิงด้านไบโอเทคโนโลยี ชาวเกาหลีใต้ ร่วมเดินทางไป พร้อมกับนักบินอวกาศ ชาวรัสเซีย อีก 2 คน

เพื่อไปปฏิบัติภารกิจบนสถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งนับเป็น นักบินอวกาศคนแรกของเกาหลีใต้ โดยรัฐบาล เกาหลีใต้ ต้องจ่ายเงินให้แก่ รัสเซียในการนี้ ถึง 20 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

คณะลูกขุนลงความเห็นว่า การสิ้นพระชนม์ ของ เจ้าหญิงไดอาน่า เป็นอุบัติเหตุ

การไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของ
เจ้าหญิงไดอาน่าแห่งอังกฤษเสร็จสิ้นลงแล้ว
โดยคณะลูกขุนลงความเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุ

หลังจากใช้เวลานานกว่า 6 เดือนและหมดค่าใช้จ่ายไปกว่า 63 ล้านบาท ในการไต่สวนหาสาเหตุ การสิ้นพระชนม์ของ เจ้าหญิงไดอาน่า และ นายโดดี้ อัล-ฟาเอ็ด ก็ได้บทสรุปเมื่อคณะลูกขุนลงความเห็นด้วยเสียงส่วนใหญ่ 9 ต่อ 2 เสียงระบุว่า

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2540 เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดจากความประมาทของ นายอองรี ปอล คนขับรถ ที่ขับรถ ขณะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกอบกับความละเลยต่อความปลอดภัย ของเหล่าช่างภาพ ปาปารัซซี่ ที่ไล่ตามรถยนต์ ของเจ้าหญิงไดอาน่าในระยะที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ และ

ที่สำคัญขณะเกิดอุบัติเหตุทั้งเจ้าหญิงไดอาน่า และนายโดดี้ ไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย

หลังรับทราบคำตัดสิน เจ้าชายวิลเลี่ยม และ เจ้าชายแฮร์รี่ พระโอรสของเจ้าหญิง ไดอาน่า ทรงออกแถลงการณ์ ขอบคุณ คณะลูกขุน ที่พิจารณาคดีนี้อย่างรอบคอบ ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงผู้ที่พยายามให้ความช่วยเหลือ ที่จะคลี่คลายการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา ทุกคน

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ราคาอาหาร จะทำให้เกิดความไม่สงบ ทางการเมืองทั่วโลก

ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ
กล่าวเตือนถึงเรื่องวิกฤติการอาหารและ
วิกฤติการด้านความมั่นคงที่จะเกิดขึ้นในโลก

นายจอห์น โฮล์มส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านกิจการมนุษยธรรม และ ผู้ประสานงาน ด้านการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน ของสหประชาชาติกล่าวเตือนว่า

ราคาอาหารที่กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบและการไร้เสถียรภาพทางการเมืองทั่วโลกได้ นายโฮล์มส์กล่าวถึงเรื่องนี้ต่อที่ประชุมว่าด้วยความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ นครดูไบ ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (united arab emirates) หรือ ยูเออี ว่า

ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นทำให้สภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นทั่วโลกกำลังเป็นไปในทางที่เลวลง และส่งผลให้เกิดปัญหาด้าน ความมั่นคงตามมา และ ในเรื่องวิกฤติการณ์ที่เกี่ยวกับอาหาร ไม่ควรจะประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากความ ไม่สงบที่เกี่ยวข้องกับอาหาร กำลังมีรายงานอยู่ทั่วโลก

นายโฮล์มส์กล่าวว่า ราคาอาหารในขณะนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากความขัดแย้ง และความ ไม่ปลอดภัย ของอาหาร และได้ตั้งข้อสังเกตว่า

การเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร โดยเฉลี่ยทั่วโลก มีถึงร้อยละ 40 นับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว เป็นต้นมา

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

อิหร่าน ไม่ยุติ โครงการ นิวเคลียร์เพื่อสันติ

อิหร่าน เริ่มต้นติดตั้ง เดรื่องเสริมสมรรถนะยูเรเนียม
ที่ทันสมัย 6 พันเครื่อง ในอาคาร เสริมสมรรถนะยูเรเนียม ใต้ดิน
ที่เมือง นาท๊านซ

สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน ได้อ้างถ้อยแถลงของ ประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดิเนจาด (Mahmoud Ahmadinejad) ที่กล่าวในวันนี้ว่า

อิหร่านได้เริ่มต้นติดตั้งเครื่องเสริมสมรรถนะยูเรเนียมใหม่ 6 พันเครื่อง ที่โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ของ อิหร่าน
ที่เมืองนาท๊านซ์ หลังจากที่อิหร่านได้เคยติดตั้ง เครื่องเสริมสมรรถนะดังกล่าวราว 3 พันเครื่อง ที่โรงงานดังกล่าว มาก่อนหน้านี้ ประกาศดังกล่าวของ ผู้นำอิหร่านได้เป็นการแสดงให้เห็นว่า

อิหร่าน ไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของนานาชาต ิเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์ที่ สหรัฐ กับ พันธมิตร กล่าวว่า มีจุดประสงค์ เพื่อสร้าง อาวุธนิวเคลียร์

ผู้นำอิหร่านประกาศถึงเรื่องนี้ในระหว่างการเดินทางไปเยือนโรงงานนิวเคลียร์ที่เมืองนาท๊านซ์ ในภาคกลาง ของอิหร่าน และกล่าวว่า จะมีการประกาศ การดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ที่เมือง ดังกล่าวต่อไปในวันนี้ด้วย

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่าจะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คตส.ได้ทุกประเด็น

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มั่นใจชี้แจงข้อกล่าวหาทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงได้ พร้อมย้ำทุกเรื่องที่ดำเนินการ เป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด หลังเข้ารับทราบ ข้อกล่าวหาจาก คณะอนุกรรมการไต่สวน การจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง ของ กทม. ต่อ คตส.

แต่มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวได้ทุกประเด็น ภายในวันที่ 22 เมษายนนี้ ทั้งเรื่องสัญญาการทำแอลซี

การย้ายสถานที่รับรถและเรือดับเพลิง เพราะทุกเรื่องที่ดำเนินการเป็นไปด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ และบางเรื่องก็เคยชี้แจงไปแล้ว

ทั้งนี้จะปรึกษาทนายความอีกครั้งว่าจะเดินทางมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง หรือทำเป็นเอกสารชี้แจงเข้ามา เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯ ให้สิทธิ์ดังกล่าว

ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. ในฐานะคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหา พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำความผิดทางกฎหมาย เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตนเองหรือพวกพ้อง จะแถลงข่าวความคืบหน้าการไต่สวนของคณะ อนุกรรมการ รวมถึงการพิจารณาคำร้องของ พันตำรวจโท ทักษิณ ที่ยื่นให้ คตส. สอบพยานเพิ่มเติมกว่า 100 ปาก

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ปลัด กห. คงไม่เกิดความวุ่นวาย ตามที่โหรทำนาย

พลเอกวินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะ อดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวถึงกรณี โหรชื่อดังทำนายว่า บ้านเมืองจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร และเกิดการนองเลือดว่า เป็นเรื่องต้องฟังหูไว้หู แต่ถึงขณะนี้ยืนยันว่า

ยังไม่มีเงื่อนไขส่งสัญญาณให้มีการทำการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นได้ ส่วนประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจเป็นชนวน ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายนั้น เชื่อว่าทางการเมืองจะหาทางออกได้ ขอให้ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล

ด้าน พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะอดีตรักษาการประธาน คมช. ปฏิเสธให้ สัมภาษณ์ถึงกรณี โหรชื่อดังทำนายว่า บ้านเมืองอาจเกิดการนองเลือดในช่วงกลางปี แต่ได้ชี้แจงถึงการเดินทาง ไปประกอบพิธี ทำบุญที่สำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ เป็นเพียงการไปทำบุญธรรมดา โดยไม่มีการทำบุญสืบชะตาประเทศ แต่อย่างใด

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบ การจัดสรรเงินรางวัลเพิ่มพิเศษ

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบ
การจัดสรรเงินรางวัลเพิ่มพิเศษสำหรับ
ข้าราชการระดับผู้บริหาร

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอในการจัดสรรเงินรางวัล สำหรับหน่วยงาน และ ผู้ปฏิบัติ และเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหารของส่วนราชการ จังหวัด และ สถาบันอุดมศึกษา ที่มีการจัดทำคำรับรอง การปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ 2550

ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับข้าราชการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอทั้ง 3 ข้อ คือ

การสรุปคะแนนผลการประเมินการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2550 ของ ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัดที่ครบถ้วนสมบูรณ์

การจัดสรรเงินรางวัลประจำปีให้ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด ที่มีการจัดทำคำรับรอง การปฏิบัติราชการ ในปีงบประมาณ 2550 และมีผลการประเมินที่ครบถ้วนทุกตัวชี้วัด และผ่านเกณฑ์การประเมินผล ซึ่งเป็นการจ่ายครั้งเดียว ในวงเงินงบประมาณที่จะจัดสรร ทั้งหมด 5,550 ล้านบาท

นอกจากนี้ ให้นำเงินร้อยละ 50 ของผู้บริหารที่มีสิทธิได้รับเงินเติมพิเศษไปสมทบ กับเงินรางวัลที่จะจัดสรรให้ กับกลุ่มผู้ปฏิบัติด้วย โดยเป็นการใช้เงินงบกลางสำหรับจ่ายเป็น เงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหารก็เป็นจำนวนเงินงบประมาณ ประมาณ 642.5 ล้านบาท เพื่อนำไปสมทบ และ จัดสรรเป็นเงินรางวัลให้ กลุ่มผู้ปฏิบัติงาน ตามหลักเกณฑ์การ จ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับ ผู้บริหาร และ เงินรางวัลสำหรับ หน่วยงาน และผู้ปฏิบัติงาน ประจำปีงบประมาณ 2550

ส่วนแนวทางในการดำเนินงานซึ่งระบุไว้เป็นข้อที่ 3 ที่สำนักงาน ก.พ.ร.ได้เตรียมการสรุปไว้ บอกว่า ให้ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด มีตัวชี้วัดจำนวนมาก โดยเฉพาะตัวชี้วัด เพื่อประมวลผล การดำเนินงานตามนโยบายสำคัญ และเร่งด่วน ของรัฐบาล

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ที่ประชุม พปช. มีมติให้แก้ไข รธน.ทั้งฉบับ

เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า
ที่ประชุมพรรคมีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
โดยนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 เป็นตัวตั้ง
และคงหมวด 1 และ 2 ไว้

นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า ที่ประชุมพรรคมีมติให้ แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 เป็นตัวตั้ง และคงหมวด 1 และ 2 ไว้ เพื่อให้รัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น รวมถึง เป็นการปฏิบัติตามพันธสัญญา ที่ให้ไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง

โดยยืนยันจะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการระดมความเห็น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนด รูปแบบ การดำเนินการแก้ไข ว่าจะให้มีการแก้ไขในสภาผู้แทนราษฎร หรือ การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาพิจารณา รวมถึงยังไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลา ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อพูดคุยในรายละเอียดอีกครั้ง และ ยืนยันว่าในที่ประชุมของพรรคพลังประชาชน ไม่ได้มีการหารือเกี่ยวกับกรณี

ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข กรณีไม่แจ้งการซื้อหุ้นเกินกว่ากฎหมายกำหนด ของภริยา อีกทั้งไม่มีการหารือ กรณีการปรับคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ภายหลังการประชุมพรรค นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เปิดโอกาสให้ลูกพรรค ได้ รดน้ำอวยพรในเทศกาลสงกรานต์ ด้วย

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ปปช.มีมติ ให้ 4 องค์กร เป็นผู้พิจารณาถึง คุณสมบัติของผู้ดำรงค์ตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีมติให้ 4 องค์กร เป็นผู้พิจารณาส่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ การสิ้นสุดตำแหน่ง ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษก และ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. กล่าวภายหลัง การประชุมพิจารณากรณี นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่แจ้งข้อมูล การถือครองหุ้นในบริษัทเอกชน ที่เกินกว่าร้อยละ 5 ของทุนจดทะเบียนของ คู่สมรสภายใน 30 วัน นับแต่วันเข้ารับตำแหน่ง ว่า

ที่ประชุมมีมติให้ส่งเอกสารไปยัง นายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการ ตามพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วน และ หุ้นของรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ประธาน กกต. เพื่อให้ดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป เนื่องจากเรื่องดังกล่าว ไม่อยู่ในอำนาจของ ปปช. ที่จะวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นความสิ้นสุดเฉพาะตัว แตกต่างจาก การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ทั้งนี้ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ทั้ง 4 องค์กร จะเป็นผู้พิจารณา ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ การสิ้นสุดตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

คตส. ปิดสำนวนไต่สวนคดีอดีตนายกฯ ได้ทรัพย์สินมาโดยมิชอบ

คตส. มีมติ ปิดสำนวนไต่สวนคดี
อดีตนายกฯ ได้ทรัพย์สินมา
โดยมิสมควร จากตำแหน่งหน้าที่

คณะกรรมการตรวจสอบ การกระทำ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่รัฐ มีมติปิดสำนวนไต่สวนคดี อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควร จากตำแหน่งหน้าที่ หลังมีหลักฐานชัด พร้อมให้ กลต. ส่งหลักฐานการถือครองบริษัท วินมาร์ค ของครอบครัวชินวัตรให้ในวันที่ 10 เม.ย.นี้

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินโดยใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเอง หรือ พวกพ้อง กล่าวว่า

ที่ประชุม คตส.ได้มีมติให้ปิดสำนวนการไต่สวนกรณีดังกล่าว โดยอนุกรรมการจะไม่สอบพยานเอกสาร และ พยานบุคคลที่ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวอ้าง กว่าร้อยปาก เนื่องจากไม่ใช่ผู้ที่เกี่ยวพันกับหลักฐานโดยตรง อีกทั้ง คตส. มีหลักฐานชัดเชื่อได้ว่าผู้เป็นเจ้าของบริษัทวินมาร์ค ที่เข้ามาถือหุ้นชิน และ เอสซีแอสเสท คือ พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา และบุตรทั้งสามคน

พร้อมกันนี้ คตส. ยังได้มีมติสั่งการให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. ส่งมอบพยานหลักฐาน การถือครองบริษัทวินมาร์คโดยครอบครัวชินวัตร ให้แก่อนุกรรมการไต่สวนในวันที่ 10 เมษายนนี้

นายแก้วสรร กล่าวอีกว่า การไม่รับฟังพยานตามความต้องการของผู้ถูกกล่าวหาครั้งนี้ มิได้เป็นการละเมิดสิทธิในการต่อสู้คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมา คตส. ให้เวลาในการชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ แต่ได้รับการปฏิเสธไว้ลอยๆ ทุกประเด็น อีกทั้งจากการสอบพยานพนักงานไปรษณีย์พบว่า ข้อกล่าวหาทุกเรื่องที่ คตส.ส่งเป็นจดหมายแจ้งทางไปรษณีย์ จะถูกปฏิเสธการรับ จากเจ้าของ บ้านจันทร์ส่องหล้าทุกฉบับ

ปรับปรุงจาก ข่าวของ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์