สหประชาชาติลงมติคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม ตามคาด – UNSC adopts new sanctions resolution on Iran

เอเอฟพี – สหรัฐ แสดงความยินดีเมื่อวันจันทร์(3) ต่อการลงมติของสหประชาชาติคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม พร้อมหวังมาตรการดังกล่าว จะกดดันให้ เตหะราน ยุติโครงการนิวเคลียร์ และหันหน้าสู่การเจรจากับ วอชิงตัน และชาติมหาอำนาจ

สหรัฐฯ ยินดีที่ได้เห็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สำนึกว่า โปรแกรมนิวเคลียร์อิหร่านยังคงเป็น ภัยคุกคาม โดยผ่านการลงมติคว่ำบาตรเพิ่มเติมครั้งนี้ ทอม เคซีย์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศอเมริกา บอก

ในนิวยอร์ก ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติท่วมท้นให้มีมาตรการคว่ำบาตรรุนแรงต่ออิหร่าน ในความพยายามครั้งล่าสุด ที่จะกดดันให้ เตหะราน ยุติแปรรูปยูเรเนียม

อเมริกาหวังว่ามติครั้งนี้ “จะกระตุ้นให้อิหร่านเปลี่ยนพฤติกรรมและทำตามข้อบังคับ รวมไปถึงยุติโครงการ แปรรูปยูเรเนียม และเข้าสู่การเจรจา 5 ชาติ สมาชิกถาวร คณะมนตรีความมั่นคง แห่งสหประชาชาติ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย และ จีน ร่วมกับอีกหนึ่งชาติคือ เยอรมนี

มติดังกล่าวคือการลงโทษอิหร่าน ด้วยมาตรการคว่ำบาตร หลังไม่ไยดีต่อคำเรียกร้องของ สหประชาชาติ ที่ต้องการให้หยุดแปรูปยูเรเนียม หรือข้อเสนอแลกเปลี่ยนจาก ยูเอ็นสำหรับการยุติโปรแกรมอันเป็นที่โต้เถียงนี้

ชาติตะวันตกกังวัลว่า ความสำเร็จในการแปรรูปยูเรเนียม จะเพิ่มขีดความสามารถสำหรับ ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ของอิหร่าน แต่ทาง เตหะราน ปฏิเสธยุติโปรแกรมดังกล่าว โดยยืนยันว่าเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าเพื่อสันติภาพ

กอร์ดอน จอห์นโดร โฆษกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หวังว่าอิหร่านจะเข้าใจสารของยูเอ็น “ประชาคมนานาชาติพูดเป็นเสียงเดียวกันอีกครั้งในวันนี้ อิหร่าน มีทางเลือกคือเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความร่วมมือ กับชาติอื่นๆ ของโลก หรือยังจะดำเนินการของตนเองไปอย่างโดดเดี่ยว และได้รับทุกข์ทรมาน ด้วยผลต่อเนื่อง จากมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของสหประชาชาติ

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000026606
ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์

---

UNSC adopts new sanctions resolution on Iran

The United Nations Security Council holds a meeting on Iran’s nuclear issue in New York, March 3, 2008. The UN Security Council on Monday adopted Resolution 1803, slapping stronger sanctions to press Iran to suspend its uranium enrichment activities.(Xinhua Photo)

Click on Image to see more news-pictures from Xinhua

---

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

อิหร่านกล่าวว่า การคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหประชาชาติ ต่ออิหร่าน จะเป็นสิ่งที่ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน เลื่อนออกไปอีกเป็นวันที่ 3 มีนา
จะลงมติคว่ำบาตร อิหร่าน ครั้งใหม่อีกแล้ว

ซ้อมรบระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ อาจทำให้ การเจรจาข้อตกลง ล้มเลิกนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ หยุดชะงัก

เกาหลีเหนือ กล่าวว่า การซ้อมรบระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ อาจจะทำให้ การเจรจาข้อตกลงล้มเลิกนิวเคลียร์ ไม่ดำเนินต่อได้

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ รายงาน โดยอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือว่า การซ้อมรบร่วม ระหว่าง สหรัฐกับเกาหลีใต้ ที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ อาจทำให้ข้อตกลง ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ต้องยุติลงได้ และว่าการซ้อมรบ ดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็น อย่างชัดเจนว่า สหรัฐยังคงดำเนินนโยบาย ที่เป็นปรปักษ์ต่อ เกาหลีเหนือ พร้อมกันนี้ เกาหลีเหนือ จะหามาตรการ ตอบโต้ที่จำเป็น รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการป้องกันตนเอง ก่อนหน้านี้กองทัพเกาหลีเหนือ ได้ตำหนิ การซ้อมรบ ระหว่าง สหรัฐ กับ เกาหลีใต้ ในครั้งที่ผ่านๆมา แต่แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือครั้งนี้ นับเป็นการแสดงความเห็น จากหน่วยงานสูงสุดของรัฐบาล.

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ระบุ การเลือกตั้งประธานาธิบดีของรัสเซีย เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 ไม่บริสุทธิ์

เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ของชาติตะวันตกระบุการเลือกตั้ง
ประธานาธิบดีของรัสเซียไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
ขณะว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ประกาศสานต่อ
แนวนโยบายของประธานาธิบดีปูติน

สมัชชาของสภายุโรปหรือพีเอซีอี. ซึ่งเป็นหน่วยงานของชาติตะวันตกเพียงแห่งเดียว ที่เข้าไปสังเกตการณ์ การเลือกตั้ง ประธานาธิบดี คนใหม่ของรัสเซีย เมื่อวานนี้ ระบุว่า การเลือกตั้งดังกล่าวไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม และยังมี ปัญหาเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้น ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยพีเอซีอี.ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้สมัครไม่สามารถที่จะเข้าถึงสื่อมวลชนได้อย่างเท่าเทียมกัน ทำให้เกิดความเคลือบแคลง เกี่ยวกับเสรีภาพของ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยในรัสเซีย

รายงานของพีเอซีอี. มีขึ้นไม่นานหลัง นายดมิตรีย์ เมดเวเดฟ ผู้ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็น ทายาททางการเมืองของ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศที่จะสานต่อแนวนโยบายของประธานาธิบดีปูติน โดยเฉพาะนโยบายต่างประเทศ และทำงานร่วมกับนายปูติน ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังพ้นจากตำแหน่ง

นอกจากนี้นายเมดเวเดฟว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของรัสเซียยังกล่าวว่า คะแนนเสียงอย่างท่วมท้นที่เขาได้รับแสดง ให ้เห็นว่า ประชาชนไว้วางใจและต้องการให้เขาเข้าบริหารประเทศ เพื่อผลประโยชน์ของรัสเซีย.

ข่าวจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

อิสราเอลถอนทหารออกจากฉนวนกาซาแล้ว

อิสราเอลถอนทหารส่วนใหญ่ และเคลื่อนย้ายรถถังออกจาก ฉนวนกาซา แล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากที่ส่งทหารเข้าไปเพื่อ โจมตีสมาชิกขบวนการฮามาส ที่ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลเป็นเวลานาน 5 วัน อย่างไรก็ตาม นายเอฮุด โอลเมิร์ต นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอล พร้อมจะส่งกองกำลังไป ฉนวนกาซาอีก เพื่อปราบปรามขบวนการฮามาส พร้อมกับย้ำว่าวัตถุประสงค์สำคัญ ของการปฏิบัติการครั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันตนเอง

ทางด้านแหล่งข่าวทางการแพทย์เปิดเผยว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 100 คน ทหารอิสราเอลเสียชีวิต 2 นาย และพลเรือนอีก 1 คน ความรุนแรงของการโจมตี ทำให้คณะมนตรีความมั่นคง แห่งสหประชาชาติ เปิดการประชุมฉุกเฉินเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และสหภาพยุโรป ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ การใช้กำลัง ที่มากเกินกว่าเหตุของอิสราเอล ขณะที่ ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์ ระงับการเจรจา กับ อิสราเอล ในทุกระดับด้วย หลังจากที่ฟื้นฟูการเจรจากันขึ้น อีกครั้งตั้งแต่สหรัฐเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุม เพื่อรื้อฟื้น การเจรจาสันติภาพที่เมืองแอนนาโปลิสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
อ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้

ปาเลสไตน์ ระงับการเจรจาหยุดยิงกับกับอิสราเอล

ว่าที่ ส.ว.สระแก้วพร้อมเดินหน้า ในการทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมือง

ว่าที่ ส.ว.จังหวัดสระแก้วระบุ พร้อมเดินหน้าทำหน้าที่ ในการตรวจสอบนักการเมือง ข้าราชการ ระดับสูง และ นักการเมืองระดับท้องถิ่น

พันตำรวจเอกพายัพ ทองชื่น ว่าที่สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวแสดงความรู้สึกที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ว.จังหวัดสระแก้วว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสระแก้ว ได้ประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการ

ตนได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง โดยได้คะแนนสูงถึง 99,969 คะแนน ชนะ พลโทอริสระ วัชรประทีป ผู้สมัครหมายเลข1 ที่ได้ 98,587 คะแนน และจากการที่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ต้องกราบขอบคุณประชาชนชาวสระแก้วที่มอบความไว้วางใจ นับเป็นคะแนนที่พี่น้องชาวสระแก้วให้โอกาส ทั้งที่เป็นการลงเล่นการเมืองเป็นครั้งแรก

ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไป พร้อมจะทำงานตอบแทนพี่น้องประชาชนชาวสระแก้วให้สมกับความไว้วางใจ ส่วนเรื่องจะมีการร้องเรียนหรือไม่นั้น คงต้องดูกันต่อไป

พร้อมกล่าวอีกว่า ในส่วนของการตรวจสอบนักการเมือง ข้าราชการ ระดับสูง และนักการเมืองระดับท้องถิ่น ที่เป็นหน้าที่ของ ส.ว. นั้นไม่หนักใจเ พราะพร้อมจะทำหน้าที่ตรวจสอบ หรือ ถอดถอน หากผู้มีตำแหน่งทางการเมือง มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

กระทรวงมหาดไทย นำหนังสือลงลับที่สุด 2 ฉบับ ถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

เจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทย นำหนังสือลงลับที่สุด 2 ฉบับ ส่งถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอความร่วมมือเรื่องข้อมูลการแก้ปัญหาภาคใต้

โดยหนังสือ 2 ฉบับ ได้ส่งถึงนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรค เปิดเผยว่า สาระสำคัญของหนังสือที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยส่งมาเป็นการขอความร่วมมือจากหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ถึงข้อมูลการแก้ปัญหาภาคใต้ โดยขอเข้าร่วมหารือตามแต่พรรคจะสะดวก หรือหากพิจารณาดูแล้วจะส่งเป็นเอกสารก็ยินดีพิจารณา ซึ่งหัวหน้าและเลขาธิการพรรคติดภาระกิจส่วนตัว ดังนั้นในการประชุมพรรควันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. จะได้มีการหารือกันอีกครั้ง ซึ่งพรรคพร้อมจะให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่จะเป็นแนวทางใด คงต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะความเห็นจาก ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

---

“เหลิม” ขอพึ่ง ครม.เงา ร่วมงานดับไฟใต้-ดึงผู้ว่าเสริมบารมี
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

“มท.1” เอาจริงร่อนหนังสือเชิญ “นายกฯ-ครม.เงา” ร่วมทำงานดับไฟใต้ ย้ำไม่อายที่จะขอคำชี้แนะจาก “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ด้านผู้ว่าฯทยอยเข้าตบเท้าพบเหลิมถึงบ้าน ร่วมแจงปัญหาหลังแจงนโยบาย

วันนี้ (3 มี.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะส่งหนังสือไปให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในฐานะนายกรัฐมนตรีเงา และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทยเงา เพื่อที่จะขอข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้

อ่านต่อ จาก ผู้จัดการออนไลน์ 3 มีนาคม 2551 19:14 น.
.

นายกรัฐมนตรี เยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกฯ พบปะชุมชนไทยในกัมพูชา พร้อมสอบถามถึงปัญหาการลงทุนของภาคธุรกิจ

นายกรัฐมนตรี พบปะชุมชนคนไทยในกัมพูชา พร้อมสอบถามถึงปัญหาการลงทุนของภาคธุรกิจ

การเยือนประเทศกัมพูชาวันนี้ (3 มี.ค.51) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ชุมชนชาวไทยพบปะพูดคุยถึงความเป็นอยู่ และการประกอบธุรกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เป็นการแนะนำตัวตามธรรมเนียม หลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองมีโอกาสได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ณ พระราชวังเขมรินทร์ และรู้สึกชื่นชมที่กัมพูชา สามารถรักษาวัฒนธรรมไว้ได้เป็นอย่างดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ด้านการลงทุน ประเทศไทยถือเป็นอันดับ 6 ของประเทศที่เข้ามาลงทุนในกัมพูชา แต่ธนาคารไทยกลับไม่ค่อยสนับสนุน นักธุรกิจไทยเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะธุรกิจไม่ตรงกับความต้องการ โดยเฉพาะอาหารไทยไม่ได้รับความนิยมในประเทศกัมพูชามากนัก อย่างไรก็ตาม เอ็มเคสุกี้ ซึ่งเป็นแบรนด์ไทยกลับสามารถไปได้ดี ดังนั้นตนเองจะเจรจากับผู้บริหารเอ็มเค เพื่อมาสนับสนุนและลงทุน ในประเทศกัมพูชา ต่อไป

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

---

นายกรัฐมนตรี ระบุ กัมพูชาส่งสัญญาณในทางที่ดี กรณีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเขาพระวิหาร

อ่านข่าว
บก.สส.หวั่น’เขมร’ ดันขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2551

นายกรัฐมนตรี ระบุ กัมพูชาส่งสัญญาณในทางที่ดี กรณีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขาพระวิหาร โดยยืนยัน จะไม่กระทบกับหลักเขตแดน ระหว่าง ไทย และ กัมพูชา

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า ขณะนี้รัฐบาลกัมพูชา ส่งสัญญาณในทางที่ดีใน 2 ประเด็น แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล และจะไม่ให้ส่งผลกระทบกับเขตแดนไทยเช่นกัน ส่วนด้านกองทัพไทย และกองทัพกัมพูชา ก็มีความเข้าใจกันดี และยืนยันว่า จะไม่กระทบถึงเขตแดน ขณะที่ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะมีการพูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าวเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยให้กับชุมชนไทยในกัมพูชา โดยเฉพาะเรื่องของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ แม้จะผ่านการเลือกตั้งไปแล้วก็ตาม รวมทั้งกรณีของพรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตย จะมีบทสรุปอย่างไร รวมถึงกรณีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านมา ที่มีคนไปใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย ทั้งนี้มองว่า รัฐธรรมนูญใหม่เป็นอันตราย สำหรับนักการเมือง ซึ่งจะต้องมีการหารือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อหาทางออกให้กับการเมืองไทยต่อไป

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

---

นายกรัฐมนตรี พอใจการเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา เนื่องจากผลการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี พอใจการเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา เนื่องจากผลการหารือร่วมกับ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นไปด้วยดี

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการหารือทวิภาคีกับสมเด็จเดโช ฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า พอใจการเดินทางเยือน ราชอาณาจักรกัมพูชาครั้งนี้

โดยเรื่องที่หารือกันนั้นมีหลายเรื่องที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาในอดีตแต่สามารถตกลงกันได้ โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อน ความช่วยเหลือด้านเงินกู้ เพื่อก่อสร้างเส้นทางคมนาคม ซึ่งหลังการหารือสามารถตกลงร่วมกันได้ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวที่จะมีการนำธุรกิจ การบินของไทยเข้ามา ในกัมพูชา

ส่วนเรื่องปราสาทพระวิหารที่จะนำขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น

ได้รับการยืนยันจากกัมพูชาว่า จะขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทพระวิหารเท่านั้น
ไม่เกี่ยวกับพื้นที่บริเวณโดยรอบจึงไม่มีปัญหาเรื่องเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ได้พบปะชุมชนชาวไทยในกัมพูชา โดยได้มีการสอบถามถึงความเป็นอยู่และการดำเนินธุรกิจในกัมพูชา ซึ่งได้รับการร้องเรียนว่าจากนักธุรกิจว่าชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ต่อต้านคนไทย เนื่องจากมีการปลุกระดมเรื่องสัมปทานป่าไม้ ขณะที่ธนาคารไทย ในกัมพูชาก็ไม่สนับสนุนธุรกิจไทย ด้วยกันเอง ดังนั้นจึงต้องการให้ นายกรัฐมนตรีช่วยแก้ปัญหา

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้พูดถึงสถานการณ์การเมืองไทยให้กับชุมชนชาวไทยได้ฟัง โดยเฉพาะคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานรัฐสภา รวมทั้งคดีของพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจาก รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงได้มีความร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตต่อไป

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ชูศักดิ์บอก ไม่ใช่ทนายคอยแก้ต่างเรื่องโยกย้าย

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่วิปรัฐบาล มีมติให้ชี้แจงการโยกย้ายข้าราชการ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า มติวิปไม่ได้ระบุให้ตน เป็นผู้ชี้แจง การโยกย้ายข้าราชการ หากฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามในห้องประชุม แต่เป็นเรื่องที่ตน จะต้องชี้แจงตามรายงานรอบปี ของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ กพร. เรื่องการประเมินผลการทำงานของราชการไทย ต่อ ที่ประชุมสภาฯ ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นรายงานเดิมของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันการโยกย้ายต่างๆไม่ใช่เรื่องของ ก.พ.ร. โดยตรง แต่เป็นภาพรวมของการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมี พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน พ.ร.บ.ระเบียบราชการพลเรือน

ก.พ.ร.ไม่เกี่ยวกับการโยกย้าย เพราะประเด็นการโยกย้ายกระทรวงจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง ส่วนกรณีที่ ครม.มีมติให้ น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ อย. และมีการทูลเกล้า ทูลกระหม่อม แล้วหรือไม่ ตนไม่ทราบ

ส่วนกรณีผู้ถูกโยกย้ายจะฟ้องร้อง ผู้เกี่ยวข้องจะต้องเป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หรือ กรณีการโยกย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ก็เป็นเรื่องของคนที่เกี่ยวข้อง จะให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดูหมดก็ไม่ไหว เพราะตอนโยกย้ายก็ไม่มีการมาถามตนเอง

ข่าวจาก
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=308740〈=T&cat=

รมว.พลังงาน หาแผนรับมือดีเซลทะลุ 30 บาท

พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะหารือกับผู้ค้าน้ำมัน และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เพื่อหามาตรการรองรับราคาน้ำมันดีเซลที่จะสูงขึ้น และอาจจะกระทบต่อ ภาคการขนส่ง และภาคการผลิตอื่นๆ โดยหากได้ข้อสรุปจะนำเสนอต่อ

ที่ประชุม คณะกรรมการ นโยบายพลังงานแห่งชาติ ต่อไป โดยแนวทางช่วยเหลือ จะเป็นการช่วยเหลือผ่าน กองทุนน้ำมัน และรายสาขา ทั้งเกษตรกร ภาคการประมง แต่รายละเอียดต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

ข่าวมาจาก เนชั่นทันข่าว
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=308739〈=T&cat=

แพทย์ชนบทไล่ “ไชยา” ลาออกตามหมอชาตรี

นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ในยุคต่อสู้ทุจริตยา 1,400 ล้านบาท และ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร ได้ให้ความเห็นกับกรณีที่ นพ.ชาตรี บานชื่น ลาออกจากราชการ ว่า ขอชื่นชมกับ นพ.ชาตรี ที่ประกาศศักดิ์ศรีของ ข้าราชการโดย ไม่ยอมรับคำสั่งอันไม่ชอบของนักการเมือง คงเป็นเพราะ นพ.ชาตรี สะเทือนใจที่ถูกนำเรื่องการถูกสอบวินัย กรณีจัดซื้อคอมพิวเตอร์มาพูดถึง และไม่ถนัด รวมทั้งไม่รู้เรื่องกฎหมายด้านอาหารและยา เพราะเคยทำงานแต่ในโรงพยาบาล และกรมการแพทย์

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คุณไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีความสามารถในการบริหาร เพราะแต่งตั้งคนที่ไม่เต็มใจ และ ไม่มีความถนัดด้าน งานอาหารและยา ให้ไปทำงานในตำแหน่ง เลขาฯอย. ในขณะที่คนทำงานดี ตั้งใจทำงาน และทำงานด้านนี้มาตลอดอย่าง นพ.ศิริวัฒน์ กลับถูกสั่งย้าย

นพ.ยงยศ กล่าวด้วยว่า เมื่อ นพ.ชาตรี ลาออกจากตำแหน่ง เพราะคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ควรต้องมีคนรับผิดชอบเรื่องนี้ รัฐมนตรี ควรแสดงความรับผิดชอบ โดยเอาอย่าง นพ.ชาตรี จะได้ไม่เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล มิฉะนั้นพวกเราจะดำเนินการ ถอดถอนท่าน ตามกฎหมายต่อไป

ข่าวมาจาก เนชั่นทันข่าว
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=308726〈=T&cat=