ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ประกาศเมื่อวานนี้ลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกร้อยละ 0.75 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ร้อยละ 2.25 ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2548 และดอกเบี้ยมาตรฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.50 เพื่อให้เกิดเสถียรภาพในตลาดการเงินและแก้ปัญหาวิกฤติสินเชื่อ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดน้อยกว่าที่คาดกันไว้ แต่เฟดได้ออกแถลงการณ์หลังการประชุมแสดงท่าทีพร้อมจะลดอัตราดอกเบี้ยอีก หากจำเป็น
สำหรับปฏิกิริยาในตลาดน้ำมัน หลังเฟดประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้นปรากฏว่า ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอีก โดยราคาน้ำมันดิบชนิดไลท์ที่จะส่งมอบกันในเดือนเมษายนที่ตลาดนิวยอร์กอยู่ที่ 109.42 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนท์แถบทะเลเหนือที่จะส่งมอบกันในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 105.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ขณะที่การซื้อขายหุ้นที่ตลาดวอลสตรีท นครนิวยอร์กเมื่อวานนี้ ดัชนีหุ้นต่างปรับตัวสูงขึ้นเพราะนักลงทุนคาดว่า การตัดสินใจของเฟดจะช่วยเสริมสภาพคล่องในภาคการธนาคาร หลังมีข่าวธนาคารแบร์ สเติร์น ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนที่สำคัญแห่งหนึ่งในสหรัฐตกอยู่ในภาวะวิกฤติใกล้ล่มสลายจากปัญหาวิกฤติสินเชื่อ ภาคการเคหะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 420.41 จุด ปิดที่ 12,392.66 หุ้นเทคโนโลยีแนสแดคปรับขึ้น 91.25 จุด ปิดที่ 2,268.26 และหุ้นเอสแอนด์พี500 สูงขึ้น 54.14 จุด ปิดที่ 1,330.74
เอเอฟพี – เฟดมีมติลดดอกเบี้ยลงอีก 0.75 เปอร์เซ็นต์ในการประชุมเมื่อวันอังคาร (18) ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดในการรับมือกับวิกฤติสินเชื่อที่ขยายวงกว้างมากขึ้นธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.75 เปอร์เซ็นต์หลังการประชุมเฟดเสร็จสิ้นลงเมื่อวันอังคาร (18) ทำให้อัตราดอกเบี้ยฟันด์เรต หรือดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนระหว่างธนาคารในปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 2.25 เปอร์เซ็นต์เฟดยังระบุในแถลงการณ์ว่า เฟดพร้อมที่จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอต่อไป“ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าทิศทางของกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ ตัวเลขการเติบโตของการใช้จ่ายภาคผู้บริโภคช้าลง เช่นเดียวกับตลาดแรงงาน และตลาดการเงินที่ยังตึงเครียด ซึ่งสภาพสินเชื่อที่ตึงตัวและการหดตัวมากขึ้นของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะเป็นตัววัดการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วง 2-3 ไตรมาสหลังจากนี้” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ของเฟด ระบุด้วยว่า มาตรการต่างๆ บวกกับความพยายามในการกระตุ้นสภาพคล่องจะช่วยทำให้เศรษฐกิจเติบโตปานกลาง และยังจะช่วยลดความเสี่ยงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจลง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงอื่นๆ ที่มีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ ดังนั้นคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมกับช่วงเวลาเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางราคา ที่ยั่งยืนต่อไป
ก่อนหน้านี้เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยดิสเคานต์เรต ซึ่งเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดคิดกับสถาบันการเงินต่างๆ ลง 0.25 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยดิสเคานต์เรตลดลงมาอยู่ที่ 2.50 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้นับเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของเบน เบอร์นันกี ประธานเฟด ในการฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐฯ และรับมือกับปัญหาสินเชื่อโลกซึ่งอาจส่งผลต่อภาวะชะงักงันของระบบการธนาคาร
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000033131
The Federal Reserve has cut US interest rates sharply in an attempt to restore confidence to nervous financial markets and boost the ailing economy.The central bank lowered rates to 2.25% from 3%, but the cut was smaller than financial markets had expected.Many economists believe the US economy is already in a recession.The Fed has taken strong action this week to avert a financial panic after investment bank Bear Stearns was forced into a fire sale to avoid collapse.US Treasury Secretary Henry Paulson admitted earlier on Tuesday that the economy was facing a “sharp decline” at the moment, but hoped for a recovery later in the year.
Read more from BBC